วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

Best High school:

FOR ALL


"Thomas Jefferson High School for Science and Technology is a Fairfax County public school offering a comprehensive college preparatory program emphasizing the sciences, mathematics, and technology. The school serves students selected on the basis of aptitude and interest in the biological, physical, mathematical, and computer sciences and who intend to pursue college preparation in the sciences, engineering, or related fields. There are approximately 450 students each in grades nine, ten, eleven, and twelve. A number of programs offered at the school provide a unique curricular experience, including the ninth grade program, Integrated Biology, English and Technology, the Tech Labs, and the Mentorship Program."
(Sources: http://information.tjhsst.edu/; accessed May 3, 2008)



ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่ม ไปที่
6560 Braddock Rd.
Alexandria, VA 22312
703-750-8300
หรือถ้าไปลำบาก ก็ดูเวปแโรงเรียนก็ได้ http://www.tjhsst.edu/

หลังจากอ่านของโรงเรียนมาเยอะแล้ว พี่ก็ขอเล่าบ้าง

เรื่องการเรียน: ด้านคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ดีมาก เพราะตั้งมาสอนวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ

อากาศ: ถือว่าอุ่นมากๆ แม้ว่าจะสู้พวกที่อยู่ West Coast ไม่ได้ แต่ืีที่ Virginia นี่ก็ไม่เลว

แคมปัส: อาจจะสวยและอาจจะไม่สวย พี่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน

Life: ก็ชือชีวิตแหละน้อง



FOR THAILAND



โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เดิมมีชื่อว่า "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ตั้งอยู่เลขที่ ๒๒๗ ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๓๐ ติดกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนนี้เดิมสังกัดอยู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเตรียมนักเรียนแผนกต่างๆ ไว้สำหรับเข้าศึกษาในคณะต่างๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ สภามหาวิทยาลัยได้ลงมติให้จัดตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาขึ้น เมื่อวันที่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๐ โรงเรียนเปิดเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๑ และนักเรียนเริ่มเรียนวันแรกเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๑ โดยมี ฯพณฯ ศ.จ.ม.ล. ปิ่นมาลากุล เป็นผู้อำนวยการท่านแรกของโรงเรียน
ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๐ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้โอนไปสังกัดกรมวิสามัญศึกษา และมีระเบียบกำหนดให้นักเรียนที่เรียนจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ สอบคัดเลือกเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับนักเรียนชั้นเตรียมอุดมศึกษาของโรงเรียนทั่วไป ทั้งยังตัดคำว่า"แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย" ออก คงเหลือคำว่า "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา" เท่านั้น

เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๓ ได้มีการเปลี่ยนแปลงแผนการศึกษาแห่งชาติใหม่ เรียกชั้นเตรียมอุดมศึกษาปีที่ ๑ และปีที่ ๒ เดิมว่า ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ แบ่งเป็นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ และ ๕ แผนกศิลปะ แผนกวิทยาศาสตร์ และแผนกทั่วไป มีหลักสูตรสองปีเท่าเดิม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจึงเป็น ชื่อเฉพาะที่มีความหมายเช่นเดิม เพราะนักเรียนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ ส่วนมากต้องการไปเรียนต่อขั้นอุดมศึกษา
 
 

อนึ่งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสามพราน ได้ตั้งขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๐๑ โดยย้ายมาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาบางปู ซึ่งตั้งขี้นในปี พ.ศ.๒๕๐๐ ครั้นต่อมาในปีการศึกษา ๒๕๐๗ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสามพราน ก็ได้ย้ายเข้ามารวมอยู่กับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ณ กรุงเทพมหานคร

ภารกิจหลักของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คือ ให้การศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา โดยมุ่งให้นักเรียนมีวุฒิ และมีความสามารถที่จะเข้าศึกษาต่อในขั้นอุดมศึกษา หรืออาชีวศึกษาตอนปลายสายสามัญชั้นสูงต่อไป นอกจากนี้ ยังมุ่งปลูกฝังอุปนิสัย และสร้างเสริมให้นักเรียนมีบุคลิกภาพที่เหมาะสม มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้สมดังเอกลักษณ์ของโรงเรียน

นอกจากภารกิจที่สำคัญดังกล่าวแล้ว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ยังได้รับมอบหมายจากกรมเจ้าสังกัด ให้ปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ที่สำคัญและควรกล่าวถึงเช่น ในปี พ.ศ.๒๔๙๙ ได้รับมอบหมายให้ความช่วยเหลือ ในด้านแนะแนวการศึกษาแก่โรงเรียนรัฐบาล และโรงเรียนราษฎร์ที่มีชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดให้หัวหน้าหมวดวิชาต่างๆ ไปให้คำแนะนำแก่โรงเรียน ตามที่ได้รับมอบหมาย จนบรรลุความสำเร็จตามเป้าประสงค์ของกรม ทั้งยังได้ส่งครู-อาจารย์ ไปช่วยสอนเพิ่มเติมในวันหยุดราชการ ให้แก่นักเรียนตามโรงเรียนที่ได้ขอร้องมาเป็นพิเศษอีกด้วย

ในปี พ.ศ.๒๕๐๓ ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้มีคำสั่ง มอบหมายให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่ภาคการศึกษาทั้ง ๑๒ ภาค โรงเรียนจึงได้จัดส่งหัวหน้าหมวดวิชา และผู้ช่วยไปแนะนำการสอนแก่ครู อาจารย์ ตามศูนย์พัฒนาการศึกษาทุกภาค ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้การเรียนการสอนของเรียนต่างๆ อยู่ในระดับเดียวกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และยังได้รับหน้าที่อบรมครูของกรมสามัญศึกษา ที่จะไปทำการสอนในโรงเรียนส่วนภูมิภาค โดยจัดให้เข้ามารับการอบรมอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จนมีประสบการณ์พอที่จะไปทำการสอน ตามแบบของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแล้ว จึงจะส่งไปดำเนินการสอนในโรงเรียนส่วนภูมิภาคนั้น

นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังได้รับโครงการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ แก่พยาบาล ของกองพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข โดยกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ทางโรงเรียนช่วยสอนพยาบาลที่จบชั้น ม.ศ.๓ หรือ ม.๖ เดิม ซึ่งอาจดำรงตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล หรือเป็นพยาบาลที่รับราชการมานาน ในโรงพยาบาลของรัฐบาลและเอกชน ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งทางกองพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขได้คัดเลือกส่งมาเรียน เพื่อสมัครสอบเทียบชั้น ม.ศ.๕ (มัธยมศึกษาตอนปลาย สายสามัญ) ทางโรงเรียนก็ได้จัดหลักสูตรระยะสั้นแบบเร่งรัด เรียนภาคกลางวันเต็มวัน ประมาณ ๔ เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม เพื่อสมัครสอบเทียบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเดือนสิ่งหาคม เป็นการช่วยเหลือให้พยาบาลที่สามารถได้ชั้น ม.ศ.๕ แล้วได้เลื่อนวิทยฐานะ ปรับวุฒิ หรือเรียนปริญญาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ฯลฯ เพื่อเป็นครูพยาบาลต่อไปได้
 
ปัจจุบัน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจัดการสอนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้ง ๓ ระดับชั้น (ชั้น ม.๔, ม.๕ และ ม.๖) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการที่ปรับปรุงใหม่ พุทธศักราช ๒๕๓๓


และ พี่ก็เชื่อว่าน้องหลายคน ฝันอยากจะเข้าโรงเรียนมาก พี่ขอให้น้องสมหวังดั่งใจหมาย พี่ก็เคยมีปะระสบการ์ณมาก่อนแต่พี่ก็ไม่หวั่นไหว ถึงพี่จะสอบไม่ติดแต่อันดับที่พี่ติดนั้นมันก็ใกล้เคียงกับจำนวนที่เขารับแต่ว่า ความมุ่งมานะความขยัน นี้และคือเครื่องรางช่วย แต่อาวุธของน้องคือ ปากกา ดินสอ ยางลบ และสมอง ขอให้โชคดีนะ                                        
                                                                           จาก เบญญาภ

2010 World University Ranking IN AsiA

จาก http://www.4icu.org/topAsia/

  ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หรือรู้จักในนามของ Beida ก่อตั้งในเดือนธันวาคม ปี 1898 เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติของจีนนับตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์สมัยใหม่ มีนักศึกษารวมประมาณต่างชาติประมาณ 30,000 คน โดยในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติประมาณ 4,000 คน จาก 80 ประเทศทั่วโลก มหาวิทยาลัยมีจุดเด่นด้านการทำวิจัยและมีหอสมุดที่ได้ชื่อว่าเป็นหอสมุดมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย มีหนังสือกว่า 6 ล้านเล่ม นอกจากนี้ศิษย์เก่าจากสถาบันนั้นยังประสบความสำเร็จเป็นนักคิดชื่อดังของจีนมากมาย เช่น เหมาเจ๋อตุง และในปี 2010ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 6 ของโลก
 

คณะที่เปิดสอน
-School of Mathematical Sciences
-School of Physics
-College of Chemistry
-School of Life Sciences
-College of Urban and Environmental Sciences
-Department of Psychology
-School of Earth and Space Sciences
-School of Electronics Engineering and Computer Science
-Institute of Computer Science & Technology
-College of Engineering
-School of Software and Microelectronics
-College of Environmental Science and Engineering
-Department of Chinese Language and Literature
-Department of History
-School of Archaeology and Museology
-Department of Philosophy
-School of Foreign Languages
-School of Arts
-School of Chinese as a Second Language
-School of International Studies
-School of Economics
-Guanghua School of Management
-Law School
-Department of Information Management
-Department of Sociology
-School of Government
-School of Marxism
-Graduate School of Education
-School of Journalism and Communication
-Institute of Population Research
-China Center for Economic Research
-Department of Physical Education
-Yuanpei School
-Institute of Molecular Medicine
-Advanced Technology Institute
-Institute of Social Science Survey
-Academy for Advanced Interdisciplinary Studies
-The Kavli Institute for Astronomy and Astrophysics
-ShenZhen Graduate School 



    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนั้นอยู่ที่ http://www.pku.edu.cn/
ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี (ต่อปี)
สาขามนุษยศาสตร์ 26,000 หยวน
สาขาทางวิทยาศาสตร์  30,000 หยวน

The Best :Harvard University


มหาวิทยาลัย Harvard ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของโลก นั้นมีอัตราการแข่งขันเข้าเรียนสูงมาก ในปีการศึกษา 2010 มหาวิทยาลัย Harvard รับนักศึกษาได้เพียง 2,100 คน แต่มีผู้สมัครเข้ามาถึง 23,000 ใบ (อัตรารับ 9%) เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน 80% ของนักเรียนทั้งหมดที่สมัครกลับตกลงใจเลือกเรียนที่ Harvard ซึ่งอัตรานี้สูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Yale และ Standford (70%) หรือระดับรองลงไปเล็กน้อย เช่น Williams, Duke, Dartmouth (50%)
สิ่งที่ไม่ต้องอธิบายกันมากคือนักศึกษาเหล่านี้เป็นสุดยอดหัวกะทิของอเมริกา ไปแข่งขันอะไรก็มักจะชนะอยู่เสมอ เพื่อให้เห็นภาพ ตัวแทนนักศึกษาของ Harvard เพิ่งไปชนะการแข่งขัน Putnam Math Competition ในปีนี้ และเป็นชัยชนะครั้งที่ 25 ของ Harvard ในขณะที่อันดับสองคือ Cal Tech เคยชนะเพียง 9 ครั้งเท่านั้น


ความสำเร็จแบบนี้ของ Harvard ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่ว่าเกิดจากการทำงานหนัก และเคล็ดลับอยู่ที่ Harvard ต้องเป็นฝ่ายไปเลือกนักศึกษาตั้งแต่ก่อนสมัครเข้าเรียนเสียอีก เพียงแต่ว่านักศึกษาเหล่านี้ไม่รู้ตัวเท่านั้น!!!
William R. “Bill” Fitzsimmons คณบดีฝ่ายรับนักศึกษาใหม่ของ Harvard เปิดเผยอย่างหมดเปลือกว่า กระบวนการรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน มิหนำซ้ำยังสำทับว่า ฝ่ายรับนักศึกษาใหม่หรือ admission นั้นทำงานกันหนักมาก หนักสุดๆ กว่าใครในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
ขั้นแรกจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกๆ ปี ทีมงานของ Harvard จะซื้อชื่อนักศึกษาหัวกะทิทั่วประเทศกว่า 70,000 รายชื่อ จากหน่วยงานที่ทำการวัดผลการทดสอบของนักเรียนในอเมริกา (ซึ่งได้แก่ College Board ผู้จัดสอบ SAT และ ACT Inc. ซึ่งทำหน้าที่จัดการเรื่องรับนักศึกษาในบางรัฐ) ทางทีมงานนั้นถือว่านักเรียนเหล่านี้ทุกคน “มีความต้องการจะสมัครเข้าเรียนที่ Harvard”
Fitzsimmons บอกว่านี่เป็นการคัดกรองแบบหยาบๆ เท่านั้น แต่ก็ได้ผลดี เพราะนักเรียน 70% ที่ Harvard รับเข้าเรียนในตอนสุดท้าย มีชื่ออยู่ในรายชื่อชุดนี้
นอกจากนี้ Harvard ยังส่งทีมตระเวณทั่วประเทศ โดยจะมีทัวร์ชุดแรกที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยชื่อดังอื่นๆ อีก 4 ราย (Stanford, Duke, Georgetown, U Penn) ตระเวณตามโรงเรียน 140 แห่งทั่วประเทศ แต่ Harvard ยังมีทีมทัวร์เฉพาะของตัวเอง ตระเวณอีกกว่า 100 แห่งเช่นกัน ในสถานที่เหล่านี้รวมถึงต่างประเทศด้วย เพราะ Harvard มีนักเรียนต่างชาติประมาณ 10%

Fitzsimmons มีทีมงานส่วนตัวของเขา 35 คน แต่เขาก็มีอาสาสมัครเป็นศิษย์เก่า และอาจารย์ของ Harvard อีกจำนวนมากช่วยกันสอดส่องหาเพชรในตม ตัวอย่างเช่น ภาควิชาคณิตศาสตร์จะส่งคนไปเก็บรายชื่อเด็กที่ชนะเลิศการแข่งขันคณิตศาสตร์รายการใหญ่ต่างๆ ของอเมริกา ส่วนอาสาสมัครที่เป็นศิษย์เก่านั้นมีถึง 8 พันคน คนเหล่านี้จะคอยตามหาตัวนักเรียนชั้นเลิศจากโรงเรียนในท้องถิ่น ชักจูงและโน้มน้าวให้นักเรียนเหล่านี้สมัครเข้า Harvard และสุดท้ายจะมีบทบาทในกระบวนการสัมภาษณ์ด้วย
Harvard นั้นได้ชื่อว่าเป็นสถาบันอุดมศึกษาของผู้มีอันจะกิน และโดนโจมตีมาโดยตลอด ทางมหาวิทยาลัยแก้ทางโดยการให้ทุนการศึกษาทั้งหมดแก่นักเรียนยากจน (ค่าใช้จ่ายตกปีละ 43,700 ดอลลาร์ หรือ 1.5 ล้านบาท) และให้นักเรียนยากจนรุ่นพี่ คอยติดต่อไปยังนักเรียนยากจนรุ่นน้อง โฆษณาว่ามหาวิทยาลัยอย่าง Harvard นั้นมีโอกาสดีๆ แบบนี้มอบให้ ซึ่งเขาและเธอได้รับมันมาแล้วจริงๆ
ขั้นที่สองจะเริ่มขึ้นหลัง Harvard รับใบสมัครมาจากนักศึกษาทั่วประเทศ ใบสมัครทุกใบจะโดนคัดกรอง โดยจะให้คะแนนตั้งแต่ 1-6 (1 คือ ดีเลิศชนิดไม่เคยมีมาก่อน 6 คือคัดทิ้งทันที) จากนั้น Fitzsimmons จะขอให้เหล่าอาจารย์ได้ตรวจสอบใบสมัครของนักเรียน ตามสาขาที่ตัวเองถนัดว่าใช้ได้มากน้อยอย่างไร
จากนั้น ใบสมัครจะถูกคัดแยกตามพื้นที่ที่นักเรียนคนนั้นอาศัยอยู่ แบ่งออกเป็น 20 เขต แต่ละเขตจะมีอนุกรรมการย่อยรับผิดชอบ และคณะอนุกรรมการจะใช้วิธีถกเถียงกันว่าจะรับนักศึกษาคนนี้เข้า Harvard หรือไม่ โดยใช้วิธีลงคะแนนกันสำหรับใบสมัครทุกๆ ใบ
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อผ่านขั้นตอนของคณะอนุกรรมการแล้ว ใบสมัครนั้นยังจะต้องผ่านกระบวนการรีวิวและโหวตซ้ำอีกครั้ง โดยกรรมการชุดใหญ่ที่มีสมาชิก 35 คน ขั้นตอนทั้งหมดจะทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้นักศึกษาครบตามจำนวนที่ต้องการ
Fitzsimmons ให้ความเห็นว่ากระบวนการแบบนี้ต้องใช้คนจำนวนมาก ซึ่งจะเกิดการ check & balance อย่างรอบคอบ
ขั้นสุดท้าย นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับจดหมายตอบรับเข้าเรียนที่ Harvard แต่ทาง Harvard จะส่งศิษย์เก่า อาจารย์ และอาสาสมัครเข้าประกบโดยโทรศํพท์ไปหานักเรียนแต่ละคน ชักจูงให้ตอบรับเข้ามาเรียนที่ Harvard
สิ่งสำคัญคือ นักเรียนที่มีสิทธิ์เข้าเรียน Harvard นั้นสามารถไปสมัครมหาวิทยาลัยอื่น และรอผลจากที่อื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ ซึ่งจะต่างจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ ในสหรัฐ ที่นักเรียนต้องตัดสินใจทันทีว่าจะเอาที่นี่หรือไม่ถ้าเกิดว่าผ่านการพิจารณา Fitzsimmons บอกว่าการสร้างความกดดันให้กับนักเรียนชั้นเลิศเหล่านี้ ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
เรียบเรียงจาก Business Week

Best MUsic In the past:Hotel California

\

               หลายคนคงได้ยินเพลงนี้มาตั้งแต่เกิด หนูเวลาไปไหนมาไหนกับพ่อที่บ้าน พ่อมักจะเปิดเพลงนี้
ให้ฟัง แม้ตอนนี้จะอายุ16 แต่หนูก็ยังชอบร้องเพลงนี้ในห้องน้ำอยู่บ๋อยแบบ ว่าเมื่อก่อนใครเปิดเพลงฝรั่งมันก็ดี พอปัจจุบันแผ่นเสียไปซื้อใหม่ แทบจะหาไม่ได้แถมแพงมากๆด้วย แบบว่าเป็นแฟนคลับเพลงนี้
เพราะพ่อให้ฟังมาตั้งแต่เกิด
ผลงานชุดที่ 5 Hotel California ออกวางขายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2519 โดยคว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ และขึ้นสู่อันดับหนึ่งในเดือนมกราคม พ.ศ. 2520 และต่อมาสามารถสร้างยอดจำหน่ายได้กว่า 10 ล้านแผ่น มีเพลงดัง New Kid in Town และ "Hotel California" ขึ้นอันดับหนึ่งในอเมริกา นอกจากนี้เพลง "Hotel California"  ยังคว้ารางวัลแผ่นเสียงยอดเยี่ยมแห่งปี Grammy for Record Of The Year ในการประกาศ รางวัลแกรมมี่ ประจำปี 1776 สมาชิก 7 คนทั้งเก่าและใหม่ต่างได้รับเกียรติจัดเข้าทำเนียบ Rock And Roll Hall Of Fame. ในปี 1998 นอกจากนี้อัลบั้ม The Hotel California ยังได้รับการคัดเลือกจากนิตยสาร The Rolling Stone ให้เป็นอัลบั้มอันดับ 37 ของ 500 อัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล The 500 Greatest Albums of all time. และโพลของ Guitar World magazine จัดให้ลูกโซโลกีตาร์ ของเพลงนี้เป็นอันดับที่ 8 จาก 100 The guitar solo
เนื้อหาของเพลงนี้เขาเปรียบเปรยว่าแคลิฟอเนียร์นั้นเป็นประดุจสวรรค์ของคนอเมริกันที่สามารถหาความสุขได้มากมาย  Don Henley ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดลิเมล์ในลอนดอน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2007 ว่าเพลงนี้สุดมหัศจรรย์ เรื่องราวของเด็กสาวกับวัฒนธรรมอเมริกันที่ทำได้ไม่ง่ายเลยระหว่างศิลปะกับธุรกิจ.  และเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2007 เขาออกทีวีในรายการ The TV news show 60 Minutes, เฉลยในสิ่งที่ใครๆอยากรู้ความหมายของเพลงนี้  เป็นเรื่องราวของความมืดกับความฝันของคนอเมริกัน  เด็กในชนชั้นกลางจาก Midwest. Hotel California ที่ต้องไปใช้ชีวิตอย่างหรูหราใน Los Angeles.ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา และในเนื้อเพลงที่กล่าวถึง "Warm smell of colitas"  เป็นคำที่มาจากภาษาเสปน มีความเกี่ยวข้องกับกัญชา  

'The Best Paper Airplane System in the World'

How to

BEST Alton Towers

อัลตั้น ทาวเวอร์ (Alton Towers)
สวนสนุกแห่งนี้อยู่ในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมือง Staffordshire ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางเหนือประมาณ 2 ชั่วโมง เครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะทั้งหลายของอัลตั้น ทาวเวอร์ เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจทั้งผู้ที่ไปเที่ยวแบบครอบครัวและผู้ที่แสวงหาความมันบนความระทึกใจโดยเฉพาะสองเครื่องเล่นใหม่ของที่นี่คือ บ้านผีสิงและลานเล่นลูกยางสำหรับเด็กเล็ก ส่วนผู้ที่ชอบความหวาดเสียวบนที่สูงก็ต้องไปลองเครื่องเล่นที่มีชื่อว่า Black Hole, Submission และ Ripsaw
นอกจากเครื่องเล่นแล้ว ภายในบริเวณอัลตั้น ทาวเวอร์ยังมีโรงแรม 2 แห่ง และภายในโรงแรม 1 ใน 2 แห่งนี้ยังมีสวนสนุกแบบสวนน้ำสไตล์แคริบเบียนในร่มอีกด้วยนับเบ็ดเสร็จจำนวนเครื่องเล่นของที่นี่มี 30 อย่างด้วยกัน แต่ละฤดูกาลจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคน และเดือนกรกฎาคมของแต่ละปีคือช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเนืองแน่นที่สุด อัลตั้น ทาวเวอร์ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2523 ค่าเข้าชมสำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป 26 ปอนด์ 4-11 ขวบ 21 ปอนด์ และต่ำกว่า 4 ขวบเข้าฟรี

Best place for Travel in AsIA: JAPAN TOKYo

TOKYO มหานครแห่งเทคโนโลยี

          Tokyo อาจเป็นเมืองของมหานครที่ใครหลายคนทั้งในเอเชีย ยุโรป แอฟิกา และ อเมริกา ฝันอยากจะมีเที่ยวที่นี้สักครั้งหนึ่ง แม้แต่ตัวดิฉัน ก็อยากไปเที่ยวโตเกียว แบบต้องเก็บเงินล่วงหน้าเลย ใครหลายคนเมืองกล่าวถึงประเทศญี่ปุ่นมักจะจินตานาการภาพต่างในโตเกียวแบบว่าโตเกียวสามารถที่จะแทนเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น

โตเกียว (東京都 Tokyo) หรือ กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน และเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก (โดยรวมเขตปริมณฑทลแล้วมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 35 ล้านคน 35,237,000 คน) โดยเฉพาะในตัวโตเกียวใน 23 เขตปกครองพิเศษในโตเกียว แล้วมีประชากรประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ในปี 2548 โตเกียวได้รับการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก โดยในปี 2550 โตเกียวได้เป็นอันดับทีE4 รองจาก มอสโก ลอนดอน และ โซล ตามลำดับโตเกียวตั้งอยู่บริเวณภาคคันโตของญี่ปุ่น คำว่า "โตเกียว" หมายถึง "นครหลวงตะวันออก" ในพื้นที่โตเกียวยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังอิมพีเรียล

ชื่อจังหวัด
      
โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก (โต (ตะวันออก) เกียว (เมืองหลวง) ในตอนต้นยุคเมจิ โตเกียวบางครั้งถูกเรียกว่า โตเก ซึ่งเป็นวิธีอ่านอีกแบบของตัวคันจิในคำว่าโตเกียว แต่ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว

ประวัติศาสตร

          ปราสาทเอะโดะ หรือพระราชวังอิมพีเรียลในปัจจุบันโตเกียวแต่เดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ที่ชื่อเอะโดะ ในปี ค.ศ. 1457 โอตะ โดกัง สร้างปราสาทเอโดะขึ้น ในปีค.ศ. 1590 โทกุงะวะ อิเอะยะสึตั้งเอะโดะเป็นฐานกำลังของเขาและเมื่อเขากลายเป็นโชกุนในปีค.ศ. 1603 เมืองเอะโดะก็กลายเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหารของเขาซึ่งมีอำนาจปกครองทั้งประเทศ ในช่วงเวลาต่อมาในยุคเอะโดะ เมืองเอะโดะก็ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก โดยมีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคนในคริสตวรรษที 18 และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นแม้ว่าองค์กรพรรดิทรงประทับอยู่ในเกียวโต

หลังจากนั้นประมาณ 263 ปี ระบอบปกครองภายใต้โชกุนถูกล้มล้างโดยการปฏิรูปเมจิ อำนาจการปกครองจึงกลับคืนมาสู่จักรพรรดิอีกครั้ง ในปี 1869 จักรพรรดิเมจิทรงย้ายเมืองหลวงมาที่เอะโดะและเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นโตเกียว โตเกียวจึงกลายเป็นศูนย
์ก
ลางทางการปกครองและวัฒนธรรมของประเทศ และการที่จักรพรรดิทรงย้ายมาประทับจึงทำให้โตเกียวกลายเป็นเมืองหลวงอย่างเต็มตัว ปราสาทเอะโดะถูกเปลี่ยนเป็นพระราชวัง

ในยุคเมจิ โตเกียวมีการพัฒนาโดยได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เช่นการเปิดบริการโทรเลขระหว่างโตเกียวกับโยะโกะฮะมะในปี 1869 และการเปิดบริการรถไฟสายแรกระหว่างชิมบะชิและโยะโกะฮะมะในปี 1872
ร์
         หมู่เกาะโองาซาวาระซึ่งมีจุดที่ใต้สุดและตะวันออกสุดของญี่ปุ่นกรุงโตเกียวตั้งอยู่ในที่ราบคันโตติดกับอ่าวโตเกียว มีขนาดประมาณ 90 กิโลเมตรจากตะวันออกถึงตะวันตก และ 25 กิโลเมตรจากเหนือถึงใตทิศตะวันออกติดกับจังหวัดชิบะ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดยามานาชิ ทิศใต้ติดกับจังหวัดคานางาวะ และทิศเหนือติดกับจังหวัดไซตามะ เขตการปกครองของโตเกียวนั้นรวมไปถึงหมู่เกาะอิสุและหมู่เกาะโองาซาวาระด้วย จึงทำให้โตเกียวมีจุดที่อยู่ใต้สุด (โอะกิโนะโทะริชิมะ) และตะวันออกสุด (มินะมิโทะริชิมะ) ของญี่ปุ่นอยู่ในพื้นที่ด้วย

ทางตะวันออกของโตเกียวเป็นที่ราบตะกอนน้ำพา เช่นบริเวณปากแม่น้ำสุมิดะ แม่น้ำเอะโดะ พื้นดินค่อนข้างอ่อนจึงทำให้เกิดการทรุดตัวของพื้นดิน อ่าวโตเกียวถูกถมที่เพื่อสร้างพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ยุคเอะโดะ และเริ่มมีการถมที่เพื่อสร้างสถานที่กำจัดขยะตั้งแต่ปี 1927 ปัจจุบันพื้นที่ประมาณร้อยละ 20 ของอ่าวโตเกียวกลายเป็นพื้นที่ถูกถม ในเขตนิชิทะมะทางตะวันตกเป็นที่สูง โดยมีเขาคุโมะโทะริ ซึ่งมีความสูง 2,017 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดในโตเกียว โตเกียวตั้งอยู่บนรอยเลื่อนที่มีพลังซึ่งอยู่ใกล้ผิวโลกมาก จึงมีการคาดการณ
์ว่า
อาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้น

ทั้งหมู่เกาะอิสุและหมู่เกาะโองาซาวาระเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ หมู่เกาะอิสุมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่จำนวนมาก เช่นในภูเขาไฟโอะยะมะบนเกาะมิยะเกะที่ระเบิดในปี 2000 ส่วนหมู่เกาะโองาซาวาระนั้นอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่มากและมีสัตว
์ท้
องถิ่นหลายชนิด จนบางครั้งถูกเรียกว่าหมู่เกาะกาลาปาโกสแห่งตะวันออก

ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชุ่มชื้นกึ่งเขตร้อน (Cfa) และตามการแบ่งเขตภูมิอากาศในประเทศญี่ปุ่น โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีลักษณะเด่นคือมีความแตกต่างระหว่างฤดูชัดเจน อากาศเปลี่ยนแปลงง่ายในแต่ละวัน ฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงและฝนตกมาก ฤดูหนาวมีวันที่แดดออกและอากาศแห้ง

โตเกียวเป็นตัวอย่างของปรากฏการณ
์เกาะความร้อน ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยความร้อนโดยวิธีต่าง เช่นไอร้อนจากเครื่องปรับอากาศหรือรถยนต
และการพัฒนาตัวเมืองทำให้มีพื้นที่สีเขียวน้อยลง

ภูมิศาสต


เศรษฐกิจ
       
ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น
ตลาดหลักทรัพย
์โตเกียวโตเกียวเป็นหนึ่งในสามศูนย์กลางทางการเงินของโลกร่วมกับนครนิวยอร์ก
และลอนดอน โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการสำรวจพบว่าในเขตโตเกียวซึ่งมีประชากรประมาณ 35.2 ล้านคน มีจีดีพีรวม 1.191 ล้านดอลลารEหรัฐในปี 2005 (เทียบด้วยความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ) ทำให้โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มีจีดีพีสูงที่สุดในโลกในปี 2008 มีบริษัท 47 แห่งในรายชื่อ Fortune Global 500 ที่มีฐานอยู่ในโตเกียว ซึ่งมากเป็นเกือบสองเท่าของเมืองอันดับสอง

โตเกียวเป็นหนึ่งในศูนย
์กลางหลักทางการเงินระหว่างประเทศและมีสำนักงานใหญ่ของวาณิชธนกิจและบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง ในระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งเป็นการพัฒนาภายใต้การควบคุมจากทางการ บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งย้ายสำนักงานใหญ่จากเมืองต่างเช่นโอซะกะ (ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางการค้าในอดีต) มายังโตเกียว โดยหวังว่าจะได้ประโยชน์จ
ากการที่ติดต่อรัฐบาลได้สะดวกขึ้น แต่แนวโน้มนี้ก็ชะลอตัวลงเมื่อประชากรเพิ่มขึ้นและทำให้ค่าครองชีพสูงตามขึ้นไปด้วย

การคมนาคม
        แผนที่รถใต้ดินของโตเกียวโตเกียวซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคคันโตตอนใต เป็นศูนย์กลางการคมนาคมภายในประเทศและระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งทางรถไฟ รถยนต
และทางอากาศ การขนส่งมวลชนภายในโตเกียวที่สำคัญคือรถไฟและรถใต้ดินที่มีเครือข่ายกว้างใหญ่และมีระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ

ภายในโตเกียวมีสนามบินนานาชาติฮาเนดะ ซึ่งให้บริการเที่ยวบินในประเทศเป็นส่วนใหญ่และเป็นสนามบินที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดในเอเชียสนามบินนานาชาติหลักคือสนามบินนาริตะซึ่งอยู่ในจังหวัดจิบะ เกาะต่าง
ในหมู่เกาะอิสุก็มีสนามบินของตนเอง เช่นท่าอากาศยานฮาชิโจจิมะ ท่าอากาศยานมิยะเกะจิมะ ท่าอากาศยานโอชิมะ และมีเที่ยวบินมายังสนามบินฮาเนดะ แต่หมู่เกาะโองาซาวาระยังไม่มีสนามบิน เพราะมีข้อโต้แย้งว่าไม่ควรสร้างสนามบินเพราะจะเป็นอันตรายต่อธรรมชาติของเกาะ

รถไฟเป็นการคมนาคมหลักในโตเกียว ซึ่งมีเครือข่ายทางรถไฟในเมืองกว้างใหญ่มากที่สุดในโลก บริษัท รถไฟญี่ปุ่นตะวันออก จำกัดเป็นผู้ให้บริการรถไฟที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึงรถไฟสายยะมะโนะเทะซึ่งวิ่งเป็นวงผ่านสถานีที่สำคัญของโตเกียวเช่นสถานีโตเกียว และ ชินจูกุ รถใต้ดินให้บริการโดยบริษัท รถไฟใต้ดินโตเกียว จำกัด (มหาชน) และสำนักงานการขนส่งและจราจรโตเกียว

โตเกียวมีประชากรทั้งหมดประมาณ 12.79 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2007 ซึ่งในจำนวนนั้น 8.65 ล้านคนอาศัยอยู่บริเวณ 23 เขตปกครองพิเศษในโตเกียว ในเวลากลางวันมีประชากรเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2.5 ล้านคนเนื่องจากมีประชากรจากเมืองใกล้เคียงเดินทางเข้ามาเพื่อทำงานหรือศึกษาเล่าเรียน
ปรากฏการณ
จะเป็นได้ชัดในเขตจิโยะดะ เขตจูโอ และเขตมินะโตะ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 2 ล้านคนในเวลากลางวัน แต่น้อยกว่า 3 แสนคนในเวลากลางคืน

ในปี 2005 ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในโตเกียวมากที่สุด 5 เชื้อชาติได้แก
จีน (123,611 คน) เกาหลี (106,697 คน) ฟิลิปปินส
(31,077 คน) อเมริกัน (18,848 คน) และ อังกฤษ (7,696 คน)

การศึกษา
         หอประชุมของมหาวิทยาลัยโตเกียวโตเกียวมีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่ สุดในญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงในระดับโลก เช่น มหาวิทยาลัยโตเกียว สถาบันเทคโนโลยีโตเกียว มหาวิทยาลัยวาเซดะ มหาวิทยาลัยนครโตเกียว มหาวิทยาลัยโชวะ มหาวิทยาลัยฮิโตะสึบาชิ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แ
ห่งโตเกียว มหาวิทยาลัยเคโอ เป็นต้น

ในแต่ละเขตมีโรงเรียนประถม และโรงเรียนมัธยมต้น ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ โรงเรียนมัธยมปลายของรัฐบริหารโดยคณะกรรมการการศึกษาของจังหวัดโตเกียว นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมปลายหลายแห่ง
 ขอขอบคุฯข้อมูล จาก http://www.abroad-tour.com/japan/tokyo/

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

Best food in japan: People around the world knons "SUSHI"

ซูชิ ( 寿司 sushi  และมีการเขียนหลายแบบ ได้แก่ すし、鮨、鮓、寿斗、寿し、壽司 ?) หรือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและกินคู่กับปลา เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซูชิมักจะหมายถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของ ซูชิเมะชิ (寿司飯, ข้าวที่ผสมน้ำส้มสายชู) และมีหน้าแบบต่างๆเป็นหน้า ที่นิยมได้แก่อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด  เนื้อที่นำมาใช้อาจจะเป็นเนื้อดิบ หรือ เนื้อที่ผ่านกระบวนการทำอาหารแล้ว สำหรับในประเทศอื่น และซูชิส่วนใหญ่มักใส่วาซาบิ บนข้าวเพื่อให้ได้ความอร่อยมากยิ่งขึ้น

ซูชิ หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วซึ่งเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น
"ซูชิ" นิยมหมายถึงนิงิริซูชิ ที่เป็นข้าวมาอัดเป็นก้อนและมีเนื้อปลาวางบนด้านหน้าเท่านั้น

Best Car: Mercedes Benz





ภาพวัดวาอารามซ้อนสลับกับตึกสูงทันสมัยคือภาพสะท้อนความกลมกลืนระหว่างวิถีชีวิตไทยสมัยใหม่กับวัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่แม้สายถนน ในเมืองใหญ่จะคลาคล่ำด้วยยวดยานนานาชนิด ผู้คนในดินแดนแห่งรอยยิ้มและอิสรเสรียังจำได้ว่า “ช้าง” เคยมีบทบาทเป็นพาหนะสำคัญในการสัญจรและลำเลียงขนส่ง หรืกระทั่งการรบทัพจับศึก สัญลักษณ์พิธีกรรมความเชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับช้างก็ยังคงแนบแน่นในสำนึกของคนไทย ช้างยังคงเป็นสัตว์นำโชคที่ทุกคนโปรดปรานเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน ในแง่หนึ่ง ความสำคัญของราชาแห่งพาหนะสี่เท้าได้สะท้อนความเป็นจริงในวิถีชีวิตไทยที่การคมนาคมขนส่งทางบกมีความสำคัญ ไม่แพ้ทางน้ำมานานก่อนที่จะมีการตัดถนนและสร้างทางรถไฟ


รถบัสและรถบรรทุกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เริ่มส่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในทศวรรษที่ 1920 มีบทบาทเด่นในการพัฒนาระบบขนส่งทางไกล ยกระดับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยขึ้นเป็นอันมาก ความเป็นผู้บุกเบิกในด้านนี้และคุณภาพรถที่ผ่านการพิสูจน์มาเป็นเวลายาวนาน ทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากมหาชนชาวไทยจนอาจกล่าวได้ว่า ถนนทุกสายในประเทศนี้ไม่เคยขาดรถบัสโดยสารและรถบรรทุกที่มีสัญลักษณ์ดาวสามแฉกติดอยู่ และถ้าจะวัดระยะทางที่รถเหล่านี้ได้วิ่งรับใช้ปวงชนชาวไทยมาร่วมแปดทศวรรษก็คงรวมได้หลายรอบโลกทีเดียว

ในเมืองไทยมีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์แทบทุกรุ่นประเภทเท่าที่เคยผลิตออกมา ทั้งรุ่นที่จัดจำหน่ายทั่วไปรุ่นพิเศษสุด เช่นรถติดตั้งซุปเปอร์ชาร์จยุคทศวรรษ 1930 หรือรุ่น 300 และ 220 ยุคหลังสงครามโลกทั้งแบบธรรมดาและแบบเปิดประทุนซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน รถ 300 SL ในรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวของคูเป้ และลิมูซีนรุ่น 600 ที่ใช้ในรัฐพิธีต่างๆ ช่วงกลางทศวรรษ 1970 ก็มีผู้สั่งซื้อ S-Class รุ่น 450 SEL 6.9 ซึ่งเป็นสุดยอดนวัตกรรมแห่งยุคสถิติการนำเข้ารถและผลสำเร็จจากการตั้งโรงงานประกอบรถหลายรุ่นในประเทศ คือรัศมีอันรุ่งโรจน์ของดาวสามแฉกซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

ย้อนอดีตสู่ปีพุทธศักราช 2406 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตัดถนนสายแรกในนครหลวง ชื่อถนนเจริญกรุง มีความยาว 6.5 กม. ตั้งต้นจากกำแพงพระบรมมหาราชวัง เลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไปสิ้นสุดที่บางคอแหลมหรือถนนตกในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรของรถม้าและรถลาก

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ทรงโปรดให้ตัดถนนเพิ่มขึ้นอีกหลายสาย และทรงสนพระทัยเรื่องรถยนต์เป็นอย่างมาก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2447 เสด็จกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ได้เสด็จไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ทรงสั่งให้บริษัทเยอรมันในกรุงปารีส ประกอบรถยนต์เก๋งหนึ่งคันยี่ห้อเมอร์เซเดส ซึ่งนับเป็นรถชั้นยอดในเวลานั้น

รถยนต์เมอร์เซเดสคันดังกล่าว ปรากฎหลักฐานการสั่งซื้อผ่านสถานเอกอัครราชทูตสยามประจำกรุงปารีส โดยสั่งซื้อจากออโตโมบิลยูเนียน ปารีส ตั้งอยู่เลขที่ 39 ถนนฌองส์ เอลิเซ่ ซึ่งเป็นบริษัทขายรถยนต์ของนายเอมิล เยลลิเน็ค รถคันนี้มาถึงสยามประเทศเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2447 ระบุผู้รับปลายทางคือพระมหากษัตริย์แห่งกรุงสยาม เป็นรถยนต์รุ่น 28 hp 4 สูบ เครื่องยนต์ 35 แรงม้า หมายเลขแชสซี คือ 2397 และหมายเลขเครื่องยนต์คือ 4290

ในขณะนั้น กรมหลวงราชบุรีฯ ทรงเร่งการประกอบรถยนต์แทบทุกวัน พอรถเสร็จก็ทรงว่าจ้างคนขับชาวอังกฤษขับรถคันนั้นพาพระองค์ท่าน พร้อมด้วย ม.จ. อมรทัต กฤดากร หลวงสฤษดิ์ สุทธิวิจารณ์ (ม.ร.ว.ถัด ชุมสาย) ตระเวนทั่วยุโรปภาคกลางเป็นการทดลองเครื่อง แล้ววนกลับไปยังนครปารีส

เมื่อเสด็จกรมหลวงราชบุรีฯ เสด็จกลับถึงเมืองไทย ก็ได้ทรงนำรถคันนั้นขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นที่พอพระราชหฤทัยยิ่งนัก รถยนต์คันนี้คือรถยนต์พระที่นั่งคันแรกในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่สารถีคือ เสด็จกรมหลวงราชบุรีฯ นั่นเอง

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานรถยนต์พระที่นั่งมาก เพราะความสะดวกสบายและเดินทางได้เร็วกว่ารถม้าพระที่นั่ง เมื่อทรงว่างเว้นจากพระราชกรณียกิจก็มักเสด็จเยือนที่ต่างๆ ด้วยรถยนต์พระที่นั่งคันดังกล่าวเสมอ ต่อมาทรงเล็งเห็นว่ารถยนต์เพียงคันเดียวไม่เพียงพอที่จะใช้งานตามพระราชประสงค์ เนื่องจากพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าและฝ่ายในหลายพระองค์ก็ทรงโปรดปรานรถยนต์กันทั้งนั้น จึงได้ตัดสินพระทัยซื้อรถยนต์พระที่นั่งอีกหนึ่งคัน
ในครั้งนี้เสด็จกรมหลวงราชบุรีฯ ได้เป็นผู้แทนพระองค์ในการสั่งซื้อ และทรงเลือกรถเมอร์เซเดส-เบนซ์อีกครั้ง สั่งนำเข้าโดยตรงจากประเทศเยอรมนี เป็นรถเก๋งสีแดง รุ่นปี 2448 เครื่องยนต์สี่ลูกสูบ ขนาด 28 แรงม้า วิ่งเร็ว 73 กม. ต่อชั่วโมง ซึ่งนับว่าเร็วมากในยุคนั้นและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามแก่รถยนต์คันนี้ ในทำนองเดียวกันกับโบราณราชประเพณีที่มีการพระราชทานนามแก่ช้างเผือกคู่บารมี ชื่อ “แก้วจักรพรรดิ์” ของรถยนต์พระที่นั่งคันนี้ มีความหมายว่า เป็นประดุจหนึ่งในแก้วเจ็ดประการอันเป็นของคู่พระบารมีแห่งองค์ราชันย์

เมื่อรถยนต์เป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่พระราชวงศ์และคหบดีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำริว่าสมควรจะจัดงานเฉลิมฉลองสักครั้งหนึ่ง จึงทรงกำหนดให้วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2448 เป็นวันชุมนุมรถยนต์ครั้งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์ ปรากฏว่ามีรถยนต์ไปร่วมชุมนุมในบริเวณพระบรมมหาราชวังถึง 30 คัน และพระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับเจ้าของรถทุกคน เมื่อถึงเวลาบ่ายสี่โมงเย็นก็ได้เคลื่อนขบวนรถไปตามถนนสามเสนเลี้ยวเข้าสู่สวนดุสิต โดยตลอดสองข้างทางมีผู้คนยืนเรียงรายชมขบวนด้วยความตื่นตาตื่นใจ

ปี พ.ศ. 2451 ใสวาระเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 56 พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสั่งรถยนต์เข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสอีกครั้งเป็นจำนวน 10 คัน เพื่อพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการชั้นสูงเพื่อใช้ในราชการแผ่นดิน รถทั้งสิบคันได้รับพระราชทานนามให้สอดคล้องกันเป็นที่ไพเราะจับใจ ได้แก่ มณีรัตนา ทัดมารุต ไอยราพตกังหัน ราชอนุยันต์ สละสลวย กระสวยทอง ลำพองทัพ พรายพยนต์ กลกำบัง สุวรรณมุขี

เมื่อมีการสร้างถนนหนทางในเมืองบางกอกมากขึ้น รถยนต์ก็กลายเป็นพาหนะที่สะดวกสบายและมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งรถส่วนบุคคล รถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทางวิ่งขวักไขว่ไปมาบนท้องถนนทำให้การจราจรเริ่มติดขัดเนื่องจากรถวิ่งกันไม่เป็นระเบียบและเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ประกอบกับในสมัยนั้นยังไม่มีทะเบียนรถเป็นหลักฐานกรรมสิทธิ์ จึงมีปัญหาการลักขโมย และก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมามากมาย

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีการออกกฎหมายตราพระราชบัญญัติรถยนต์ฉบับแรกในประเทศสยาม เมื่อ พ.ศ. 2452 ภายใต้พระบรมราชโองการ ดังนี้

“ทุกวันนี้มีผู้ใช้รถยนต์ที่เรียกกันว่า “โอโตโมบิล” ขับไปมาอยู่ตามถนนหลวงมากขึ้น สมควรที่จะมีพระราชบัญญัติสำหรับการเดินรถและขับรถขึ้นไว้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์อันตรายต่างๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติสืบไป...”

พระราชบัญญัติฉบับนี้ กำหนดให้เจ้าของจดทะเบียนรถกับกระทรวงมหาดไทย โดยเสียค่าธรรมเนียมคันละ 10 บาท ในช่วงเวลานั้นมีรถยนต์นั่งและรถบรรทุกทั้งในบางกอกและหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศที่จะทะเบียนรวมทั้งสิ้น 412 คัน
ในเมื่อคนไทยหันมานิยมใช้รถกันมากขึ้น บริษัทต่างประเทศได้ทยอยกันเข้ามาเปิดกิจการในบางกอกมากมาย ว่ากันว่า ในยุคนั้นร้านรวงในย่านการค้าเมืองหลวงจะมีการขึ้นป้ายประกาศเปิดกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายใหม่แทบทุกสัปดาห์เลยทีเดียว รถยนต์ที่นำเข้ามีหลากหลายยี่ห้อ ทั้งจากประเทศฝรั่งเศส เยอรมนีและสหรัฐอเมริกา รวมไปจนถึงธุรกิจรถมือสองด้วย จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2474 รถยนต์ที่จดทะเบียนทั้งหมดมีจำนวนถึง 3,222 คัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ระอุขึ้นในปีพ.ศ. 2482 การสัญจรโดยรถยนต์ในเมืองไทยก็ต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว จนเมื่อผ่านพ้นยุคข้าวยากหมากแพงไปแล้ว คนไทยก็หันมานิยมสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศอีกครั้ง และแน่นอนว่ารถยนต์ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

ในระยะแรกห้าง บี.กริมม์ เป็นบริษัทที่นำเข้ารถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในช่วงทศวรรษที่ 1900 รถคันที่เคยเป็นพาหนะคู่ใจของนายอดอล์ฟ ลิงค์ ผู้จัดการบริษัทในยุคทศวรรษ 1920 สืบมาจนถึงทายาทรุ่นหลังๆ ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ใช้การได้ดีเช่นเดียวกับอีกหลายๆ คันที่ได้จำหน่ายแก่ลูกค้าชาวไทยในระยะต่อมาห้างบี.กริมม์ ยังได้จัดหารถใช้งานหลายประเภทให้กองทัพบกและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลไทย

พ.ศ. 2484 คุณเล็กและคุณประไพ วิริยะพันธุ์ (บุตรสาวของขุนวิจารณ์พานิช ผู้ก่อตั้งบริษัท วิริยะพานิช จำกัด) ได้ก่อตั้งบริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด ขึ้นที่ถนนราชดำเนินกลาง ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อนำสินค้าคุณภาพดีจากยุโรปและอเมริกาเข้ามาจำหน่าย อาทิ ตู้เย็น เครื่องรับวิทยุ ยี่ห้อเทเลฟุงเก้น และรถหลากหลายยี่ห้อรวมถึงรถยนต์ชั้นเยี่ยมจากเยอรมันยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วย

รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่นำเข้ามาในยุคแรก เป็นรถบรรทุกสำหรับใช้ในกิจการทหารหรือการขนส่ง ในเวลานั้นรถบรรทุกส่วนมากเป็นรถที่นำเข้าจากอเมริกา มีแต่เครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง คุณเล็กและคุณประไพจึงได้นำเครื่องยนต์ดีเซลเมอร์เซเดส-เบนซ์เข้ามาใส่แทนที่ ทำให้ประหยัดและใช้งานได้ทนทานกว่า จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนไทยรู้จักรถบรรทุกและรถโดยสารยี่ห้อ “เมอร์เซเดส-เบนซ์”

เมื่อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เป็นที่รู้จักอย่างดีแล้ว บริษัท ธนบุรีพานิชเล็งเห็นว่าควรขยายตลาดรถยนต์นั่งให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เนื่องจากในช่วงนั้นยังไม่มีรถยนต์นั่งเมอร์เซเดส-เบนซ์จำหน่ายในประเทศไทย คุณเล็กและคุณประไพจึงเริ่มติดต่อโดยตรงกับทางเยอรมนี เพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยรายแรก

รถยนต์นั่งเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นแรกที่ทางบริษัทฯ นำเข้ามาก็คือ Benz 170 V โดยนำเข้ามาจัดแสดงที่โชว์รูม ถนนราชดำเนินชุดแรกเพียง 4 คันเท่านั้น กิจการของธนบุรีพานิชได้เติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านยอดจำหน่ายและจำนวนพนักงาน เนื่องจากคนไทยรู้จักและประทับใจในคุณภาพของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งหรือรถบรรทุก

ต่อมา คุณเล็กและคุณประไพได้ตั้งบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด เพื่อประกอบเฉพาะรถบรรทุกในย่านยศเส และหลังจากนั้นขยับขยายไปที่สวนลุมพินี กิจการค้าและประกอบรถยนต์ของธนบุรีฯ นั้นขึ้นชื่อลือชาทั้งในด้านคุณภาพและบริการ ทำให้มีตัวแทนจำหน่ายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์รายอื่นๆ เช่น ห้างยนต์วิชัย หรือลำปางชัย ทยอยเปิดตัวตามมา

ในปี พ.ศ. 2522 คุณพากเพียร วิริยะพันธุ์ บุตรชายคนโตของคุณเล็กและคุณประไพ ผู้ผ่านการศึกษาและฝึกงานกับบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ประเทศเยอรมนีโดยตรง ได้สร้างโรงงานใหม่เพื่อประกอบทั้งรถยนต์นั่งและรถบรรทุกที่ปากน้ำ สมุทรปราการ ส่วนโรงงานเดิมที่ลุมพินีก็เปลี่ยนเป็นแผนกอะไหล่ทั้งหมด สำหรับโชว์รูมและสำนักงานใหญ่ก็ยังคงตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนินกลางจนถึงปัจจุบัน

ด้วยศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศ โดยจดทะเบียนบริษัทฯ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2541 ธุรกิจของบริษัทฯ ครอบคลุมทั้งการนำเข้าและประกอบรถยนต์จัดจำหน่ายรถยนต์นั่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล ทั้งที่เป็นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถไครสเลอร์ และรถจี๊ป ทั้งยังให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าแบบครบวงจรอีกด้วย โดยบริษัทฯ ยึดมั่นในปณิธานที่จะรักษาความเป็นหนึ่งในการผลิตรถยนต์ระดับหรู ดีไซน์เลิศและให้บริการที่สามารถสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า

ดาวสามแฉกได้มาส่องสกาวนำทางอยู่บนท้องถนนเมืองไทยนับเป็นเวลากว่า 100 ปี เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้รับความนิยมชมชื่นในฐานะรถคุณภาพชั้นนำที่รับใช้คนไทยสู่จุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยมาหลายยุคสมัย จวบจนวันนี้ ได้มีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์โลดแล่นอย่างโดดเด่นเป็นสง่าทั่วประเทศไทยมาแล้วกว่า 100,000 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำแห่งยนตรกรรมเลิศหรูในประเทศไทยอย่างแท้จริง

                     การพัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ของMercedes Benzซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างการออกแบบที่ก้าวหน้าด้วยการใช้นวัตกรรม และวิศวกรรมเพื่อยานยนต์แห่งอนาคต...

                      ในอนาคตอันใกล้นี้ พลังงานทางเลือกใหม่อย่างไฮโดรเจนหรือระบบประจุพลังงานจากแบตเตอร์รี่ที่ส่ง ถ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังมอเตอร์พลังสูงเพื่อกลายมาเป็นแรงบิดจะได้รับความนิยม มากขึ้นเมื่อเชื้อเพลิงฟอสซิสมีราคาสูงจนยันเพดาน บริษัท Mercedes Benz จึงวางแผนพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ในค่ายของตนบนโครงการรถ Concept Car ที่ใช้ชื่อว่า F800 Style ซึ่งใช้ระบบการขับเคลื่อนแบบ Multi-Drive โดยสามารถเลือกใช้การขับเคลื่อนตัวรถด้วยเชื้อเพลิงแบบ Fuel-Cell ไฮโดรเจนซึ่งใช้มอเตอร์ขนาด 134 แรงม้าหรือระบบ Plug In Hybrid ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ปริมาตรความจุ 3.5 ลิตรพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 107 แรงม้า การขับเคลื่อนทั้งสองแบบใช้เทคโนโลยีล่าสุดโดยจะมีให้เห็นได้ในรถ Mercedes Benz ของยุคต่อไปในอีก 3-4 ปีนี้ การใช้เส้นตัวถังที่อ่อนช้อยกลมกลืนของ F800 Style จะปรากฏภาพลักษณ์เดียวกันกับในรถรุ่น CLS โมเดลที่ 2 ที่จะออกขายในปี 2011-2012 นี้ ยุทธศาสตร์ใหม่ของ Mercedes Benz คือการใช้แนวคิดที่มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อออกแบบรถยนต์ในรูปลักษณ์ต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ทางเลือกของระบบขับเคลื่อนใหม่ในอนาคต ระบบควบคุมและจัดแสดงข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการขับ ฟังก์ชั่นของระบบให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบใหม่ล่าสุดTraffic Jam Assist ระบบแรกในโลกแห่งยนตกรรมและนับเป็นเจ้าแรกของโลกที่สามารถวิ่งตามรถยนต์คัน ข้างหน้าผ่านทางโค้งโดยผู้ขับไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับพวงมาลัยแต่อย่างใด!
จากhttp://www.mercedes-benz.co.th

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

best Cell phone: You Know? IPHONE 4

             ในที่สุดก็จบการนำเสนอ iPhone 4 จากศาสตราจารย์ Apple ตัวพ่ออย่างนาย Jobs ไปแล้วหลายๆ Feature ใหม่ๆนั้นถูกบรรจุลงใน iPhone 4 อย่างลงตัวเลยทีเดียว และราคาที่เปิดตัวมานั้นก็เท่ากับราคาในรุ่นก่อนๆ ซึ่งจุดนี้อาจจะทำให้มือถือที่เปิดตัวหลังจากนี้ถึงกับขายไม่ออกเลยทีเดียวเชียว จุดเด่นที่สำคัญของ iPhone 4 นั้นก็เห็นจะเป็นในเรื่องของการแสดงผลซึ่งมีความละเอียดสูงมากๆ มากถึง 4 เท่าตัวของรุ่นก่อนๆหน้านี้เลยทีเดียว และปัญหาเรื่องแบตเตอร์รี่หมดไวก็น่าจะได้รับการแก้ไขให้ใช้ได้นานขึ้นด้วยการเพิ่มขนาดแบตเตอร์รี่ทำให้ใช้ได้นานกว่าเดิมถึง 40% เลย การขยับตัวของ Apple ด้วยการเปิดตัว iPhone 4 ในครั้งนี้มองว่าเป็นการสกัดดาวรุ่งมาแรงแบบ Android จาก Google ซึ่งกำลังมาแรงแซงทางโค้งครับ เราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าใครจะเจ๋งกว่าใคร เราไปดูข้อมูลสรุปจากตัวฉันเองกันเลยว่าเจ้า iPhone 4 มันมีดีอะไร


iPhone 4 กับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป
iPhone 4 นั้นโครงสร้างภายในเป็นโลหะเป็นส่วนใหญ่และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ “Unibody” ทีใช้ใน Macbook ของ Apple นั้นเอง ซึ่งจุดเด่นของมันคือความแข็งแรงครับ จึงทำให้ตัวมันเองนั้นมีลักษณะเป็นเหลี่ยม โดยรอบๆโครง “Unibody” นั้นจะมีเสาอากาศพันเอาไว้โดยรอบ การออกแบบนี้ฉีกแนวเดิมๆ ที่มีแต่ความโค้งมนมาสู่ Body ที่เป็นเหลี่ยมมุมที่แลกมาด้วยความแข็งแรงทนทาน และฉันคิดว่าน่าจะลดปัญหาเรื่องริ้วรอยได้มากพอควรเลย


หน้าจอและการแสดงผลอันทรงพลัง
ด้วยจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 3.5 นิ้วนั้น ประกอบกับความละเอียดระดับสูงที่ 960 x 480 pixel, Contrast 800 : 1 นั้น มันมีความคมชัดมากกว่า iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ทั้งหมด
แบตเตอร์รี่ที่อึดมากขึ้น
โดยทาง Apple นั้นได้แจ้งว่าแบตฯนั้นจะใช้งานได้นานมากกว่าเดิมถึง 40% เนื่องจากการใช้ CPU A4 และหน้าจอใหม่นั้นจะช่วยทำให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น มาดูว่าประหยัดยังไงครับ
  • คุยผ่าน 3G : 7 ชั่วโมง
  • เล่นเน็ตผ่าน 3G : 6 ชั่วโมง
  • เล่นเน็ตผ่าน Wi-Fi : 10 ชั่วโมง
  • ดูหนัง : 10 ชั่วโมง
  • ฟังเพลง : 40 ชั่วโมง
  • รอรับสาย : 300 ชั่วโมง
กล้องความละเอียดสูงและมาพร้อมกับ LED flash
iPhone 4 นั้นบรรจุกล้องความละเอียดสูงถึง 5 mega pixel เลยทีเดียว และที่สำคัญมี LED flash มาให้อีกด้วย โดยกล้องตัวใหม่นี้จะมีความไวแสงมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ ทำให้ช่วยถ่ายภาพในที่มืดได้ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน
Video Call มาแล้ววว แต่ก็ยังตะหงิดๆ
โดยกล้องที่อยู่ด้านหน้าของ iPhone 4 นั้นจะทำหน้าที่ในส่วนนี้ แต่ที่ผมบอกว่ามันตะหงิดๆ ก็เพราะว่ามันต้องใช้ Wi-Fi เท่านั้นในการทำ Video Call นั้นเอง … แหมทำไปได้นะท่านศาสดา

ปลูกผักบน iPhone 4 กันได้แล้ว
วันนี้ Jobs ทำให้ความใฝ่ฝันของสาวกทั้งหลายเป็นจริงแล้วครับ เพราะเราจะสามารถปลูกผักได้จากทุกๆที่แล้ว

เปิดตัว iOS4 ไม่ใช่ iPhone OS 4 อย่างที่คิดไว้
จุดเด่นสำหรับ iOS 4 ก็คือความสามารถในการทำการแบบ multitasking โดยทีี่จะไม่ผลาญหลังงานจากแบตเตอร์รี่อย่างรุนแรง เหล่าสาวกก็จะได้เปิดโปรแกรมหลายๆตัวพร้อมกันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวแบตฯ หมดเร็ว
ราคาที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม
โดย iPhone 4 จะเริ่มขายในวันที่ 24 มิถุนายน 2010 นี้โดยจะขายที่ 16GB ที่ราคา $199 และ 32GB ที่ราคา $299 โดยจะต้องติดสัญญากับผู้ให้บริการ 2 ปีจึงจะได้ราคานี้ ส่วนราคาเครื่องเปล่า iPhone 4 นั้นอยู่ที่ $599 และ $699 ตามลำดับ
ข้อมูลเชิงเทคนิค
Size and weight
Height: 4.5 inches (115.2 mm)
Width: 2.31 inches (58.6 mm)
Depth: 0.37 inch (9.3 mm)
Weight: 4.8 ounces (137 grams)
Cellular and wireless
UMTS/HSDPA/HSUPA (850, 900, 1900, 2100 MHz)
GSM/EDGE (850, 900, 1800, 1900 MHz)
802.11b/g/n Wi-Fi (802.11n 2.4GHz only)
Bluetooth 2.1 + EDR wireless technology
Power and battery
Built-in rechargeable lithium-ion battery
Charging via USB to computer system or power adapter
Talk time: Up to 7 hours on 3G , Up to 14 hours on 2G
Standby time: Up to 300 hours
Internet use: Up to 6 hours on 3G , Up to 10 hours on Wi-Fi
Video playback: Up to 10 hours
Audio playback: Up to 40 hours
Capacity
16GB or 32GB flash drive
Camera, photos, and video
Video recording, HD (720p) up to 30 frames per second with audio
5-megapixel still camera VGA-quality photos and video at up to 30 frames per second with the front camera
Tap to focus video or still images
LED flash
Photo and video geotagging
Location
Assisted GPS
Digital compass
Wi-Fi
Cellular
Display
Retina display
3.5-inch (diagonal) widescreen Multi-Touch display
960-by-640-pixel resolution at 326 ppi
800:1 contrast ratio (typical)
Fingerprint-resistant oleophobic coating on front and back
Support for display of multiple languages and characters simultaneously
Audio formats supported
AAC (8 to 320 Kbps), Protected AAC (from iTunes Store), HE-AAC, MP3 (8 to 320 Kbps), MP3 VBR, Audible (formats 2, 3, 4, Audible Enhanced Audio, AAX, and AAX+), Apple Lossless, AIFF, and WAV
Video formats supported
H.264 video up to 720p, 30 frames per second, Main Profile level 3.1 with AAC-LC audio up to 160 Kbps, 48kHz, stereo audio in .m4v, .mp4, and .mov file formats; MPEG-4 video, up to 2.5 Mbps, 640 by 480 pixels, 30 frames per second, Simple Profile with AAC-LC audio up to 160 Kbps per channel, 48kHz, stereo audio in .m4v, .mp4, and .mov file formats; Motion JPEG (M-JPEG) up to 35 Mbps, 1280 by 720 pixels, 30 frames per second, audio in ulaw, PCM stereo audio in .avi file format
Support for 1024 by 768 pixels with Dock Connector to VGA Adapter; 576p and 480p with Apple Component AV Cable; 576i and 480i with Apple Composite AV Cable (cables sold separately)
Viewable document types
.jpg, .tiff, .gif (images); .doc and .docx (Microsoft Word); .htm and .html (web pages); .key (Keynote); .numbers (Numbers); .pages (Pages); .pdf (Preview and Adobe Acrobat); .ppt and .pptx (Microsoft PowerPoint); .txt (text); .rtf (rich text format); .vcf (contact information); .xls and .xlsx (Microsoft Excel)
Sensors
Three-axis gyro
Accelerometer
Proximity sensor
Ambient light sensor
Environmental requirements
Operating temperature: 32° to 95° F(0° to 35° C)
Nonoperating temperature: -4° to 113° F(-20° to 45° C)
Relative humidity: 5% to 95% noncondensing
Maximum operating altitude: 10,000 feet (3000 m)
ขอบคุณรูปภาพจาก gizmodo และข้อมูลจาก zdnet มา ณ ที่นี่ด้วยครับ